ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี
หมวดหมู่ทั่วไป => โปรโมทสินค้าฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 ตุลาคม 2025, 13:59:35 น.
-
โรคเบาหวานเรื่องไม่หวานที่ควรรู้ (https://doctorathome.com/disease-conditions/278)
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเรื้อรัง เป็นโรคที่ไม่ "หวาน" อย่างชื่อ เพราะนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงมากมาย หากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม นี่คือเรื่องสำคัญเกี่ยวกับโรคเบาหวานที่คุณควรรู้:
1. โรคเบาหวานคืออะไร?
โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับ น้ำตาลกลูโคสในเลือดสูง อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความผิดปกติของ ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ที่ผลิตจากตับอ่อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อินซูลินคือ "กุญแจ": อินซูลินทำหน้าที่เป็นกุญแจนำน้ำตาล (กลูโคส) จากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นพลังงาน
เบาหวานเกิดขึ้นเมื่อ:
ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ ไม่เพียงพอ (เหมือนกุญแจมีน้อย) หรือ
เซลล์ร่างกายเกิด ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (เหมือนกุญแจมี แต่ไขประตูเข้าบ้านไม่ได้)
2. เบาหวานมีกี่ชนิด?
โรคเบาหวานหลัก ๆ แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ:
ชนิดของเบาหวาน สาเหตุหลัก การรักษาหลัก
ชนิดที่ 1 ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ที่ผลิตอินซูลินในตับอ่อน มักพบในเด็กและวัยรุ่น จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน ทุกวัน
ชนิดที่ 2 ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ร่วมกับตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ลดลง (พบมากที่สุด) ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย, ใช้ยาเม็ด, อาจต้องฉีดอินซูลิน
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ และมักหายไปหลังคลอดบุตร แต่มีความเสี่ยงเป็นชนิดที่ 2 ในอนาคต ควบคุมอาหารและยา
3. อาการที่ควรสังเกต (สัญญาณเตือน)
หลายคนอาจไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่อระดับน้ำตาลสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มมีอาการที่เรียกว่า "ปัสสาวะมาก-กระหายน้ำมาก-กินจุ-น้ำหนักลด"
ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ: โดยเฉพาะตอนกลางคืน
กระหายน้ำมาก: ดื่มน้ำมากเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกคอแห้ง
กินเก่งแต่ผอมลง: กินอาหารมากขึ้นแต่น้ำหนักลดลงผิดปกติ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ตาพร่ามัว: มองเห็นไม่ชัด
ชาปลายมือปลายเท้า: อาจมีอาการแสบร้อนหรือปวดร่วมด้วย
แผลหายช้ากว่าปกติ: เพราะน้ำตาลสูงส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานของเม็ดเลือดขาว
4. ภาวะแทรกซ้อนที่ "ไม่หวาน"
การปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำลายเส้นเลือดและเส้นประสาททั่วร่างกาย นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนถาวร:
เบาหวานขึ้นจอประสาทตา (ตาบอด): ทำลายเส้นเลือดในดวงตา อาจทำให้ตาบอดได้
เบาหวานลงไต (ไตวาย): ทำลายหน่วยไต จนต้องฟอกไต
ปลายประสาทเสื่อม: ทำให้ชา, ปวดแสบปวดร้อน, และเท้าเป็นแผลหายยาก (นำไปสู่การถูกตัดขาได้)
โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง: เพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจขาดเลือดและอัมพฤกษ์อัมพาต
5. สิ่งสำคัญที่สุดในการควบคุมโรค
แม้เบาหวานส่วนใหญ่จะรักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในภาวะสงบได้ด้วย วินัย
อาหาร: ควบคุมปริมาณแป้ง/คาร์โบไฮเดรต, เลือกธัญพืชไม่ขัดสี, เลี่ยงหวานจัด มันจัด เค็มจัด
กิจกรรม: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ยา: รับประทานยา/ฉีดอินซูลินตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
การตรวจสุขภาพ: พบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1c) และตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อน (ตา, ไต, เท้า) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง