ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี

หมวดหมู่ทั่วไป => โปรโมทสินค้าฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 22:08:19 น.

หัวข้อ: ตรวจอาการ: สมองอักเสบ (Encephalitis)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 22:08:19 น.
ตรวจอาการ: สมองอักเสบ (Encephalitis)  (https://doctorathome.com/symptom-checker)

สมองอักเสบ (Encephalitis) คือ ภาวะที่เนื้อสมองเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อโดยตรง หรือเกิดจากปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติของร่างกายที่โจมตีสมองของตัวเอง ภาวะนี้อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองอย่างรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง หรือถึงแก่ชีวิตได้


สาเหตุของสมองอักเสบ

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของสมองอักเสบคือการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไวรัส อย่างไรก็ตาม ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นไปได้:

การติดเชื้อไวรัส (Viral Infections) - สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด:

ไวรัสเริม (Herpes Simplex Virus - HSV): เป็นสาเหตุหลักของสมองอักเสบชนิดรุนแรงและอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะ HSV-1 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดเริมที่ปาก

ไวรัสไข้สมองอักเสบที่มียุงเป็นพาหะ (Arboviruses): เช่น ไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis Virus - JEV), ไวรัสนิปาห์ (Nipah Virus), ไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile Virus)

ไวรัสโรคหัด (Measles Virus), ไวรัสคางทูม (Mumps Virus), ไวรัสอีสุกอีใส (Varicella-Zoster Virus): ซึ่งมักพบในผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus), ไวรัสพิษสุนัขบ้า (Rabies Virus), ไวรัส HIV: ก็สามารถทำให้เกิดสมองอักเสบได้เช่นกัน

การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Infections):

บางครั้งเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจลุกลามเข้าไปในเนื้อสมองทำให้เกิดสมองอักเสบได้ เช่น Streptococcus pneumoniae, Neisseria meningitidis

เชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคไลม์ (Lyme Disease) หรือซิฟิลิส ก็สามารถทำให้เกิดสมองอักเสบได้

การติดเชื้อรา หรือปรสิต:

พบได้น้อยกว่า แต่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ (Autoimmune Encephalitis):

เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาโจมตีเซลล์สมองของตัวเอง โดยไม่มีสาเหตุจากการติดเชื้อโดยตรง อาจเกิดขึ้นเอง หรือเกิดหลังจากการติดเชื้อบางชนิด (Post-infectious Encephalitis) เช่น ADEM (Acute Disseminated Encephalomyelitis)

สาเหตุอื่นๆ:

ปฏิกิริยาต่อวัคซีน (พบน้อยมาก)

ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด


อาการของสมองอักเสบ

อาการของสมองอักเสบจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรง ตำแหน่งที่สมองได้รับผลกระทบ และสาเหตุของโรค โดยทั่วไปอาการมักจะเริ่มแบบเฉียบพลัน หรือค่อยๆ แย่ลงภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์:

อาการเริ่มต้น (มักคล้ายไข้หวัดใหญ่):

ไข้

ปวดศีรษะ รุนแรง

ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย

คลื่นไส้ อาเจียน

อาการที่บ่งชี้ถึงสมองอักเสบ (อาการทางระบบประสาทที่ชัดเจนขึ้น):

สับสน มึนงง: การรับรู้บกพร่อง disorientation

ง่วงซึม ซึมลงเรื่อยๆ: หมดสติ โคม่า

ชัก: อาจเป็นอาการแรกที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก

บุคลิกภาพหรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง: หงุดหงิดง่าย ก้าวร้าว หรือเฉื่อยชาผิดปกติ

พูดลำบาก หรือเข้าใจคำพูดได้ยาก (Aphasia)

อ่อนแรง หรืออัมพาตครึ่งซีก

กล้ามเนื้อกระตุก หรือเคลื่อนไหวผิดปกติ (Tremors)

เห็นภาพหลอน หรือภาพซ้อน

ความบกพร่องของหน่วยความจำ: ลืมสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

คอแข็ง: (มักพบร่วมกับเยื่อหุ้มสมองอักเสบ)

แพ้แสง

ในทารกและเด็กเล็ก: อาจแสดงอาการแตกต่างไป เช่น ร้องกวนตลอดเวลา อาเจียน ไข้ ซึม ไม่ดูดนม กระหม่อมโป่งตึง


การวินิจฉัยสมองอักเสบ

การวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจหลายอย่างร่วมกัน:

การซักประวัติและตรวจร่างกาย: ประเมินอาการทางระบบประสาท


การตรวจภาพถ่ายทางสมอง (Brain Imaging):

MRI (Magnetic Resonance Imaging): เป็นการตรวจที่ละเอียดที่สุดในการดูการอักเสบในเนื้อสมอง

CT Scan (Computed Tomography Scan): อาจใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อดูความผิดปกติเบื้องต้น


การเจาะน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture / Spinal Tap):

เพื่อนำน้ำไขสันหลังไปตรวจหาการติดเชื้อ (ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา) หรือความผิดปกติอื่นๆ เช่น โปรตีนสูงขึ้น หรือมีเซลล์เม็ดเลือดขาว

การตรวจเลือดและปัสสาวะ: เพื่อหาสาเหตุการติดเชื้อ หรือภาวะการอักเสบทั่วไป

การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram - EEG): เพื่อดูรูปแบบคลื่นไฟฟ้าสมองที่ผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงภาวะสมองอักเสบหรือโรคลมชัก


การรักษาสมองอักเสบ

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ:


การรักษาตามสาเหตุ:

ยาต้านไวรัส (Antiviral Drugs): หากสาเหตุเกิดจากไวรัสเริม (HSV) หรือไวรัสบางชนิด จะให้ยาต้านไวรัส เช่น Acyclovir ทันทีโดยไม่รอผลการตรวจยืนยัน เพราะเป็นยาที่มีประสิทธิภาพและต้องให้เร็วที่สุด

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics): หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

ยาต้านเชื้อรา/ปรสิต: หากสาเหตุเกิดจากเชื้อราหรือปรสิต

ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants): เช่น สเตียรอยด์ หรือ Immunoglobulin (IVIG) ในกรณีที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ (Autoimmune Encephalitis)


การรักษาตามอาการและประคับประคอง:

ยาควบคุมอาการชัก (Anticonvulsants): เพื่อป้องกันหรือควบคุมอาการชัก

ยาลดบวมในสมอง (Corticosteroids): เพื่อลดอาการบวมในสมอง


ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด: เพื่อบรรเทาอาการ

การดูแลระบบทางเดินหายใจ: อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหากผู้ป่วยมีปัญหาการหายใจ

การดูแลสารน้ำและโภชนาการ: อาจให้ทางหลอดเลือดดำ หรือผ่านสายให้อาหาร

การเฝ้าระวังอาการใกล้ชิดในโรงพยาบาล: โดยเฉพาะในห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU)


การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation):

หลังพ้นภาวะวิกฤต ผู้ป่วยหลายรายอาจมีความบกพร่องหลงเหลืออยู่ เช่น ปัญหาการเคลื่อนไหว การพูด หรือความจำ จึงจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูโดยทีมสหวิชาชีพ เช่น นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักอรรถบำบัด

สมองอักเสบเป็นภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรงและต้องการการวินิจฉัยและการรักษาอย่างรวดเร็ว หากมีอาการสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดอาจเป็นสมองอักเสบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อประเมินและรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดครับ